เลือกน้ำสำหรับชงกาแฟ:น้ำกรอง,น้ำแร่และแร่ธาตุในน้ำส่งผลยังไง

8 จำนวนผู้เข้าชม  | 

เลือกน้ำสำหรับชงกาแฟ:น้ำกรอง,น้ำแร่และแร่ธาตุในน้ำส่งผลยังไง

 

การเลือกน้ำสำหรับชงกาแฟ: น้ำกรอง น้ำแร่ และแร่ธาตุในน้ำส่งผลยังไง

หนึ่งในปัจจัยหลักสำคัญที่ส่งผลต่อรสชาติของเมล็ดกาแฟคั่วในการชงกาแฟก็คือ “คุณสมบัติของน้ำ” ซึ่งได้แก่ ค่า pH, ค่า Total Hardness และค่า Alkalinity ในน้ำ มาดูกันว่าค่าเหล่านี้ทำไมถึงมีความสำคัญต่อรสชาติของกาแฟ

1.ค่า pH หรือ ค่าความเป็นกรด-ด่าง
โดยทั่วไป น้ำบริสุทธิ์จะมีค่า pH เป็นกลางที่ประมาณ 7 และสามารถรักษาสมดุลกรด-ด่างได้เอง แต่เมื่อน้ำผ่านการกรองแบบ RO ซึ่งกำจัดแร่ธาตุออกหมด จะทำให้ค่า pH ต่ำลงและมีความเป็นกรดเล็กน้อย เมื่อนำไปชงกาแฟ โดยเฉพาะ เมล็ดกาแฟคั่ว ระดับคั่วอ่อน จะทำให้รสชาติเปรี้ยวโดดและไม่สมดุล ในทางกลับกัน น้ำแร่ที่ยังมีแร่ธาตุอยู่จะมีค่า pH ใกล้เคียงกลาง (6.5–7.5) เหมาะกับการชงกาแฟ ช่วยให้รสชาติกลมกล่อมและสมดุลมากยิ่งขึ้น


2.ค่า Total Hardness หรือ ค่าความกระด้างของน้ำ
น้ำมีผลต่อรสชาติกาแฟอย่างมาก โดยเฉพาะแร่ธาตุสำคัญอย่างแคลเซียมและแมกนีเซียม ซึ่งช่วยดึงกลิ่นและรสจาก เมล็ดกาแฟคั่ว โดยแมกนีเซียมจะเน้นรสผลไม้ (Fruity) ส่วนแคลเซียมเสริมความครีมมี่ น้ำกรอง RO ที่ไม่มีแร่ธาตุเหล่านี้อาจทำให้กาแฟรสจืดและขาดความซับซ้อน ขณะที่น้ำแร่ที่มีแร่ธาตุในระดับเหมาะสมจะให้กาแฟที่รสเข้ม ซับซ้อน และกลมกล่อมกว่า แต่หากมีแร่ธาตุมากเกินไป อาจทำให้เกิดตะกรันในเครื่องชงกาแฟได้

3.Alkalinity หรือ Acid Buffer Capacity
ค่า Alkalinity คือความสามารถของน้ำในการรักษาสมดุลกรด-ด่าง วัดจากปริมาณไบคาร์บอเนต (HCO₃⁻) ที่ช่วยทำหน้าที่เป็น Buffer ควบคุมค่า pH ไม่ให้เปลี่ยนแปลงมาก น้ำในธรรมชาติสามารถดูดซับ CO₂ จากอากาศ ซึ่งเพิ่มความเป็นกรดในน้ำ แต่ไบคาร์บอเนตจะช่วยต้านกรดนั้นได้ น้ำกรองที่ไม่มี Bicarbonate จะขาดความสามารถในการ Buffer ทำให้กาแฟที่ใช้ เมล็ดกาแฟคั่ว คั่วอ่อน มีรสเปรี้ยวจี๊ดเกินไป ขณะที่น้ำแร่ที่มีค่า Alkalinity ประมาณ 40 mg/L จะช่วยให้กาแฟมีรสชาติกำลังดี เปรี้ยวพอดี และคงความซับซ้อนไว้ได้อย่างกลมกล่อม

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้