919 จำนวนผู้เข้าชม |
มาทำความรู้จัก "Latte Art" ลวดลายบนกาแฟแก้วโปรดของเรา
จุดเริ่มต้นของ “ลาเต้อาร์ต”
แม้กาแฟจะมีต้นกำเนิดอันรุ่งเรืองมาจากอิตาลี แต่สำหรับ “ลาเต้อาร์ต” ที่เป็นดั่ง signature ตีคู่มากับกาแฟ กลับมีถิ่นกำเนิดมาจากสหรัฐอเมริกา ลาเต้อาร์ตยุคแรกถือกำเนิดจากร้านกาแฟท้องถิ่นช่วงปี 1990 ในเมือง Seattle ชื่อร้านว่า “Espresso Vivance” ขณะนั้นร้านกาแฟแห่งนี้มีผู้ร่วมก่อตั้งระดับตำนาน “David Schomer” ผู้ชื่นชอบทั้งศิลปะและกาแฟอย่างถึงที่สุด เขาและเหล่าบาริสต้าพยายามรังสรรค์กาแฟให้มีเอกลักษณ์ที่แตกต่าง ก่อนจะเริ่มแต่งเติมผลงานเชิงศิลป์ลงบนแก้วกาแฟ และนั่นก็ได้ถือกำเนิดลาเต้อาร์ตลายแรกที่ทุกคนต่างชื่นชอบมาก ๆ ได้แก่ ลายหัวใจ (Heart) ก่อนจะมีลายถัดไปได้แก่ ลาย Rosetta
หลังจากนั้นบาริสต้าจาก Espresso Vivance ได้ถูกฝึกให้ทำลาเต้อาร์ตรูปแบบต่าง ๆ ยากขึ้น สวยขึ้นและหลากหลายขึ้น จนเป็นที่สนใจและดึงดูดคอกาแฟอย่างแพร่หลาย กระทั่ง “ลาเต้อาร์ต” ได้กลายมาเป็นเอกลักษณ์สำคัญของวงการกาแฟ ตั้งแต่ ปี 1990 เป็นต้นมา
ปัจจุบัน ลาเต้อาร์ต เป็นที่นิยมมากในประเทศแถบเอเชีย ลวดลายลาเต้อาร์ตจากบาริสต้าชาวเอเชียนได้รับการยอมรับสูงและมีบทบาทมากบนเวทีแข่งขัน World Latte Art Championship ซึ่งการแข่งขันในปี 2023 ที่ผ่านมา 5 อันดับแรกที่เอาชนะในรายการไปได้เป็นบาริสต้าชาวเอเชียทั้งหมด
ลวดลายลาเต้อาร์ต มีกี่แบบ
ปัจจุบัน การรังสรรค์ลาเต้อาร์ตสามารถทำได้หลายลวดลายไม่ว่าจะง่ายหรือยาก แต่ถ้าหากนับเพียงรูปแบบวิธีการทำให้ได้เป็นลาเต้อาร์ต 1 ชิ้น จะมีวิธีการทำหลัก ๆ อยู่ 2 แบบ ได้แก่
แบบ Free Pour: วิธีทำลาเต้อาร์ตแบบ Free Pouring เป็นวิธีดั้งเดิมของการทำลาเต้อาร์ตยุคแรก โดยจะใช้แก้วพิชเชอร์ (Pitcher) หรือแก้วสตีมนม เพื่อสร้างฟองนมนุ่มและแน่น แล้วเทกันแบบสด ๆ ให้ได้ลวดลายตามที่ต้องการ วิธีนี้มักอาศัยความชำนาญและประสบการณ์ของบาริสต้าพอสมควร เรียกว่าเป็นรูปแบบคลาสสิคสไตล์
แบบ Etching: วิธีทำแบบ Etching เป็นวิธีที่ประยุกต์ขึ้นใหม่ตามยุคสมัย มักใช้กับลวดลายที่ยากและมีความซับซ้อนสูง โดยจะเป็นการใช้เครื่องมือเฉพาะหรือไม้ปลายแหลมที่คล้ายกับไม้จิ้มฟัน บรรจงขีดลากลวดลายให้เกิดความประณีตและมีมิติมากขึ้นภายหลังการเทฟองนมแล้ว รูปแบบนี้มักสร้างลวดลายที่หลากหลาย เฉพาะตัวและซับซ้อน เช่น รูปคน สัตว์ หรือรูปที่มีองค์ประกอบหลายสิ่ง
ลาเต้อาร์ตที่ดี ต้องมีลักษณะอย่างไร
“ลาเต้อาร์ต” ไม่ได้อวดลวดลายชูความสวยงามให้กับกาแฟเท่านั้น แต่ลาเต้อาร์ตแต่ละชิ้นงาน สามารถบ่งบอกถึงคุณภาพและความเชี่ยวชาญของบาริสต้าได้ ซึ่งลาเต้อาร์ตที่ดีและมีคุณภาพสูง สามารถสังเกตได้จาก 3 ปัจจัยดังนี้
คุณภาพของฟองนม: ลาเต้อาร์ตที่ดีควรมีฟองนมที่นุ่ม แน่น ละเอียดและเรียบเนียนมากในระดับที่เรียกว่า ‘Micro Foam’ ลักษณะนี้ฟองนมจะละเอียดมากจนไม่มีฟองอากาศแทรกอยู่ พื้นผิวของฟองนมจะมันวาวระดับหนึ่ง ชั้นฟองนมจะไม่หนาหรือบางจนเกินไป
ความคมชัดของลวดลาย: ถัดจากฟองนมที่ต้องเนียนและแน่นระดับสิบ ลวดลายที่วาดลงไปจะต้องคมชัดไม่แตกเส้น ลายจากฟองนมที่ละเอียดและแน่นจะแยกตัวและตัดขอบกับสีกาแฟได้อย่างชัดเจน สามารถมองเห็นได้ในทันทีว่าลาเต้อาร์ตมีลวดลายอะไร
ความสมดุลของลวดลาย: อีกหนึ่งวิธีสังเกตลาเต้อาร์ตที่ดี สัดส่วนของงานศิลป์ต้องมีความสมดุล อยู่บริเวณกึ่งกลางและมีความเสมอกันของรูปวาด มีความเล็กและใหญ่ที่เท่ากัน ไม่เอนเอียงไปฝั่งใดฝั่งหนึ่ง องศาของภาพลาเต้อาร์ตควรตั้งฉากกับหูแก้วกาแฟ โดยปกติจะให้หูแก้วกาแฟอยู่ทางขวามือแบบตั้งฉาก 90 องศา
ที่มา : https://weaverscoffee.com/.../latte-art-the-evolution-of...
https://perfectdailygrind.com/.../understanding-the.../
https://www.aromathailand.com/latte-art/?lang=th
อ่านความรู้หรือสาระอื่นๆ เพิ่มเติม >> #Baramioknowledge #Baramio #BaramioCoffee